ไม่ใช่เพศสัมพันธ์ทุกครั้งจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์เสมอไป การตั้งครรภ์จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อไข่และอสุจิเจอกัน เกิดการปฎิสนธิขึ้น และตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมเดินทางจากท่อนำไข่ไปฝังตัวในมดลูก การที่ไข่และอสุจิจะมาเจอกันได้นั้น ผู้หญิงจะต้องมีการตกไข่ และผู้ชายต้องมีการสอดใส่อวัยวะเพศและหลั่งภายในอวัยวะเพศของผู้หญิง มีวิธีการมากมายที่สามารถป้องกันไม่ให้ไข่และอสุจิเจอกัน ซึ่งแต่ละวิธีก็มีประสิทธิภาพต่างกัน ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมประสิทธิภาพของวิธีการต่างๆ ที่คนชอบเข้ามาถามกันในห้องเเชทมาแบ่งปันกัน
มีเพศสัมพันธ์ (พสพ.)แบบไหนถึงจะไม่ท้อง
- การใช้นิ้ว
การใช้นิ้ว โดยทั่วไปจะไม่ก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ เนื่องจากอสุจิและไข่ไม่ได้เจอกัน ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้นิ้ว โดยไม่มีน้ำอสุจิ ไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้าอยากเพิ่มความสบายใจของคู่นอน เราสามารถเปลี่ยนเป็นใช้นิ้วจากมืออีกข้างหนึ่งแทน หรือรอให้นิ้วที่มีอสุจิแห้งก่อนที่จะใช้ในการสอดใส่ ถ้าอสุจิแห้งแล้วจะไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้
- การถูไถกันของอวัยวะเพศ
การถูไถกันภายนอกของอวัยวะเพศจะไม่ก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ เนื่องจากอสุจิของฝ่ายชายและไข่ในร่างกายของฝ่ายหญิงไม่เจอกัน แต่หากมีการสอดใส่แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ เพื่อเพิ่มความสบายใจของคู่นอน เราสามารถใช้วิธีนี้ควบคู่ไปกับวิธีป้องกันอย่างอื่น (การใช้ถุงยาง, การทานยาคุมรายเดือน)
มีพสพ.ป้องกันแบบไหนถึงจะมีโอกาสท้องน้อย
- การฝังยาคุม (ลดโอกาสท้องได้ 99%)
การฝังยาคุม 1 ครั้ง สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 3 – 5 ปี แล้วแต่ชนิดของยา สามารถรับบริการได้ที่โรงพยาบาลทั่วประเทศ ราคาประมาณ 2,500 บาท สำหรับวัยรุ่น อายุ 10 – 20 ปี ฝังยาคุมฟรีได้ที่สถานบริการของรัฐ
- ยาฉีดคุมกำเนิด (ลดโอกาสท้อง 94-99%)
การฉีดยาคุมกำเนิด จะฉีดทุกๆ 3 เดือน ฉีดครั้งแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน และฉีดเข็มต่อๆ ไป ตามกำหนดนัดทุก 12 สัปดาห์ สามารถรับบริการได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ
ราคา : ประมาณ 200 – 300 บาท
- ยาคุมกำเนิดรายเดือน (ลดโอกาสท้อง 91-99%)
การกินยาคุมกำเนิดรายเดือน ทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด จะช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้เมื่อรับประทานอย่างถูกต้อง โดยเริ่มกินเม็ดแรกภายใน 5 วัน นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา และกินวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง สำหรับยาคุมแบบ 28 เม็ด สามารถเริ่มกินแผงต่อไปได้เลย แต่แบบ 21 เม็ด ต้องเว้นไป 7 วัน เพื่อให้ประจำเดือนมา แล้วค่อยเริ่มกินแผงใหม่ ถ้าเริ่มทานก่อนที่ประจําเดือนจะมา ต้องทานยาติดต่อกัน 5 หรือ 7 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันได้ (5 วันถ้าเป็นยาชนิดที่มี progesterone อย่างเดียว 7 วันถ้าเป็นยาชนิดที่มี estrogen กับ progesterone)
ราคา : 100 – 300 บาท/แผง หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
- การใช้ถุงยางอนามัย (ลดโอกาสท้อง 85-98%)
การใช้ถุงยางอนามัย ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้อีกด้วย การใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องหมายความว่า ต้องใส่ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และตั้งแต่ต้นจนจบของการสอดใส่อวัยวะเพศ ถ้าไม่อย่างงั้นก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์อยู่
มีพสพ.แบบไหนที่ทําให้มีโอกาสท้อง
- หลั่งนอก (ลดโอกาสท้อง 78%)
การดึงออกเพื่อหลั่งนอกสามารถก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากอาจมีอสุจิเล็ดลอดออกมากับน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายแม้ว่าจะยังไม่เกิดการหลั่งก็ตาม เป็นวิธีที่มีโอกาสผิดพลาดสูง ดังนั้น เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับการหลั่งนอกเสมอ
- การมีพสพ.ขณะมีประจำเดือน (มีโอกาสท้อง)
ประจำเดือน เกิดจากการสลายตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ไม่มีการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งเป็นช่วงหลังวันตกไข่ สำหรับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอ การมีเพศสัมพันธ์ในวันแรกของการมีประจำเดือนจะมีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ แต่การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงท้ายๆ ของการมีประจำเดือนจะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากอสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายของผู้หญิงได้ถึง 2-3 วัน ซึ่งอาจถึงช่วงที่ไข่ตกใหม่พอดี
ถ้ามีพสพ.แบบป้องกันพลาดมาแล้วควรทําอย่างไรดี?
ถ้ายังไม่เกิน 5 วัน ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือมีความผิดพลาดจากการคุมกำเนิด เช่น ถุงยางอนามัยรั่ว หรือลืมกินยาคุมกำเนิดเกิน 3 วัน เป็นต้น จะช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้ประมาณร้อยละ 85 ซึ่งประสิทธิภาพนั้นจะลดลงตามระยะเวลาที่กินยา ยิ่งกินเร็วยิ่งมีประสิทธิภาพสูง และต้องกินให้ครบ 2 เม็ด โดยจะกินพร้อมกัน 2 เม็ด หรือ กิน 1 เม็ดทันทีและอีก 12 ชั่วโมง กินอีก 1 เม็ดก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน 120 ชั่วโมง (5 วัน) ใช้เฉพาะฉุกเฉินเท่านั้น แม้กินยาแล้ว ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้
ราคา : ต่ำกว่า 100 บาท หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
ถ้าเกิน 5 วัน มาแล้วให้รอตรวจว่าตั้งครรภ์หรือไม่
เพื่อผลที่เชื่อถือได้ ควรตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 14 วัน หรือ หลังจากประจําเดือนมาช้าเกิน 7 วัน
ถ้าท้องไม่พร้อม ทำอย่างไรดี?
สามารถปรึกษาความกังวลใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ได้ที่ห้องเเชท lovecare ที่เว็บไซต์เลิฟแคร์ หรือเพจ lovecare station (https://www.facebook.com/lovecarestation/) พี่ๆ พร้อมให้คำปรึกษา และคำแนะนำสำหรับทางเลือกต่างๆ รวมถึงข้อมูลการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย สามารถเข้าห้องแชทได้ทาง https://www.lovecarestation.com/ หรือ โทรสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 เวลา 9.00-21.00 น. หรือเพจ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม https://www.facebook.com/1663telephonecsg
- ข้อควรระวัง
- โอกาสการตั้งครรภ์ (เปอร์เซ็นต์) จากการป้องกันการตั้งครรภ์นั้นเป็นจริงกับกรณีที่ทำอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลั่งนอก เป็นวิธีที่มีโอกาสผิดพลาดสูง
- ยาคุมกำเนิด หรือ เทคนิคการหลั่งนอก ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น STD (sexually transmitted disease) หรือ HIV ดังนั้น ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
วิธีไหนดีที่สุด คงไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับตัวคุณเอง เลือกให้เหมาะกับตัวเองและคู่ เพราะวิธีที่ดีที่สุดคือ วิธีที่ทำได้จริง นั่นเอง
จัดทำโดย
สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย
Content Creator
1.นางสาวญาณิศา พิศาลายน นิสิตเเพทย์ชั้นปีที่ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2.นางสาวบุญสิตา เสือทอน นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 1 สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
Artwork
1.นางสาวบุญสิตา เสือทอน นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 1 สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
2.นางสาวศศิกานต์ บางชะวงษ์ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยนเรศวร
Editor
นางสาวมณีพรรณราย จิวจินดา นิสิตเเพทย์ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยแพทย์จุฬาภรณ์
อ้างอิง :
Birth Control Methods & Options | Types of Birth Control. (2020). Retrieved 19 March 2020, from https://www.plannedparenthood.org/learn/birth-control